รวบอดีตสาวแบงก์ ผันตัวเป็นดาว TikTok หลอกนายทหาร สูญเงิน 11 ล้าน

รวบอดีตสาวแบงก์ ผันตัวเป็นดาว TikTok หลอกนายทหาร สูญเงิน 11 ล้าน

ตำรวจสืบภาค 4 นำเค้กวันเกิดบุกคอนโดหรูจับสาวอดีตพนักงานแบงก์ ดาวติ๊กต๊อก ก่อเหตุหลอกนายทหารร่วมลงทุนทำธุรกิจสูญเงิน 10 ล้านบาท พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.4 เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก ช่วงเดือน พ.ย.2563 มีนายทหารชั้นสัญญาบัตรนอกราชการ อายุ 60 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าถูก น.ส.โบว์ ทำงานเป็นพนักงานฝ่ายสินเชื่อของธนาคารชื่อดัง ขณะนั้น หลอกลวงเอาเงินไปร่วมลงทุนทำธุรกิจ สูญเงินไป 10,980,000 บาท ก่อนลาออกจากธนาคารแล้วไม่คืนเงินร่วมลงทุน นอกจากนั้นยังมีผู้เสียหายแจ้งความให้ดำเนินคดีหลอกขายโทรศัพท์มือถือไอโฟน

จากการติดตามสืบสวนทำให้ทราบว่า 

ผู้ต้องหาได้ผันตัวมาเป็นดาวใน TikTok ชื่อว่า โบวี่ ไอวี่ ซึ่งก็มีคนติดตามหลายคน และก็เป็นเบาะแสที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาตัวเจอและจับกุมตัวได้ในที่สุด โดยก่อนจับกุมนั้น ทางตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหาอยู่บนคอนโด จึงจัดกำลังเฝ้าตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.64 แต่ผู้ต้องหาระวังตัวมากไม่ยอมออกจากห้องเลย และเมื่อวานที่ผ่านมา (22 ต.ค.64) เป็นวันเกิดผู้ต้องหาคาดว่าจะออกมาไปทำบุญแต่ก็ไม่ออกมาจึงวางแผนเอาเค้กไปส่งให้ที่ห้อง ทำให้ผู้ต้องหาหลงเชื่อ ออกมารับเค้กทำให้ตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ได้

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างเพียงว่าเป็นการร่วมลงทุน ทำธุรกิจ ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่จะให้การ ซึ่งยังมีผู้เสียหายเปนแม่ค้าออนไลน์ขายมือถือไอโฟนถูกน.ส.โบว์ หลอกซื้อไอโฟนโดยแรกๆจ่ายเงินดาวน์ ผ่อนไม่หมด ก็ขอซื้อเพิ่มอีกจนติดหนี้เกือบแสน แล้วเอาไอโฟนก็เอาไปโพสต์ลงขายต่อ สร้างความเสียหายให้กับแม่ค้าออนไลน์ ทราบว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายจะเข้าแจ้งความเพิ่มเติม

รุมประชาทัณฑ์ พ่อเลี้ยงทำร้ายเด็ก 8 ขวบดับ ตีลูกเลี้ยงจนตาย หลังวันนี้ตำรวจหิ้วทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวกลับโรงพักทุลักทุเล จากกรณีข่าวสุดสลดที่พ่อเลี้ยงโหด นายวิรัช แซ่เฮ้ง อายุ 31 ปี ดื่มสุราจนเมามายแล้วทำร้ายลูกเลี้ยงวัย 8 ขวบ ด้วยการทารุณกรรมจนเสียชีวิต โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาล ต.หนองแค จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา (21 ต.ค.64) คมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า ขณะที่ ตำรวจ สภ.หนองแค พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 20 นาย คุมตัวนายวิรัช พ่อเลี้ยงโหด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยหลังจากเจ้าหน้าที่กำลังนำตัวคนร้ายออกจากบ้านที่เกิดเหตุ ปรากฏ ชาวบ้านจำนวนมากต่างกรูกันเข้าไปรุมประชาทัณฑ์นายวิรัช ด้วยความโกรธแค้น จนต้องรีบนำตัวกลับเข้าบ้านก่อนจะขับรถตู้เข้ามารีบพาตัวกลับโรงพักทันที

พอเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องรีบนำตัวนายวิรัชกลับไปคุมขังที่โรงพักอย่างทุลักทุเล โดยเบื้องต้นพ่อเลี้ยงโหดถูกตั้ง 4 ข้อหา คือ กระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย , ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังนั้นถึงแก่ความตายกระทำการอันเป็นการทรุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก (ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546)

สอง ช่างทาสีถูกตัดเชือก ทำแผนจำลอง เผยยังหวาดกลัวอยู่

สอง ช่างทาสีถูกตัดเชือก ขณะโรยตัวนอกคอนโดสูง 26 ชั้น ทำแผนจำลอง เผยยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ ด้านตำรวจเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐานนนทบุรี นำตัว นายสองและ นายสุทิน ช่างทาสีที่ถูกตัดเชือกขณะกำลังทำงานอยู่นอกคอนโดความสูงระดับชั้น 26 เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว และกลายเป็นกระแสฮือฮา มาจำลองเหตุการณ์ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการมัดตัวผู้ก่อเหตุ

โดยใช้วิธีนำเชือกลักษณะคล้ายเส้นที่ถูกตัดมาโรยลงจากชั้นดาดฟ้า พร้อมทำสัญลักษณ์ไว้ แล้วให้ช่างทาสีห้อยตัวลงไปเหมือนตอนทำงาน เพื่อจะตรวจสอบว่าเชือกถูกตัดที่ชั้นใด ซึ่งตรงกับที่นายสองเห็นมือคนตัดจากชั้น 21

พ.ต.อ.จักรพงศ์ ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ได้มีการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้รวบรวมผลตรวจ DNA จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อนำมาใช้ประกอบการยืนยันตัวของผู้ก่อเหตุ

เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาแกผู้ก่อเหตุรายนี้แล้ว 2 ข้อหา คือ กระทำความผิดฐานพยายามฆ่า และกระทำความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ แม้ผู้ก่อเหตุจะให้การปฏิเสธ แต่ทางตำรวจก็ได้ออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุในฐานะผู้ต้องหาแล้ว โดยให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน หรือให้มารับทราบภายในวันที่ 27 ต.ค. 64

ด้านนายสอง กล่าวว่า ตนกับเพื่อนยังมีความรู้สึกหวาดกลัวอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีทางให้เลือกมาก ยังต้องทำงานในสายอาชีพนี้ต่อไป แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์โดนแอบตัดเชือกนี้ขึ้น ตอนนี้เวลาทำงานต้องมีคนเฝ้าเชือกให้ พร้อมกันนี้นายสองเองยังได้ฝากบอกกับผู้ก่อเหตุอีกว่า ให้รับสารภาพสิ่งที่ทำ ให้มามอบตัวและอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก

ขณะที่มีรายงานว่า หญิงผู้ก่อเหตุ ตอนนี้ได้หายตัวไปจากคอนโดดังกล่าวแล้ว และยังไม่มีการมารับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป